ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวบวกสดใส ขานรับข่าวดีจากประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มคลี่คลายขึ้น, ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณผ่อนคลาย (Dovish), ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่อีกด้าน เราก็เห็นชัดเจนว่า ตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง (IMF ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเหลือ 3.3% จากเดิมที่ 3.5%) รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อก็ไม่ได้ร้อนแรงมากและยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ซึ่งส่งผลให้ตลาดฯเข้าสู่สภาวะ Goldilocks หรือภาวะเศรษฐกิจที่มีดุลยภาพ (หมายถึงการเติบโตของเศรษฐกิจที่ไม่ได้ร้อนแรงเกินไปจนทำให้มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ) และถึงแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงบ้างแต่ก็ยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งส่งผลดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น หุ้น, ตราสารหนี้ และ REITs ก็ต่างให้ผลตอบแทนน่าพอใจในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2019 ตามนี้
รวมถึงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนประเภทอื่นที่ไม่ใช่หุ้น ก็ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจไม่แพ้กัน
(ข้อมูลถึงวันที่ 31 พ.ค. 62)
นี่คือ ผลตอบแทนการลงทุนแต่ละดัชนี ท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามการค้า และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการผลิตในประเทศหลักของโลกนะครับ หลายคนถึงขั้นงงไปเลย ตกลงว่าเศรษฐกิจโลก ดีหรือแย่กันแน่? ทำไมหุ้นถึงให้ผลตอบแทนดีในช่วงนี้?
วันนี้ชวนไปอ่านมุมมองการลงทุนจาก TMB Advisory ที่ผมจะมาสรุปให้อ่านกัน
โดยภาพรวม ต้องบอกว่า ยังคงเติบโ